แคลเซียมถือเป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่มีความสำคัญมากต่อร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างและรักษากระดูกให้แข็งแรง การได้รับแคลเซียมเพียงพอจึงมีบทบาทสำคัญในการป้องกันและบำบัดโรคกระดูกพรุน ซึ่งเป็นภาวะที่กระดูกมีความหนาแน่นต่ำ และเสี่ยงต่อการหักง่าย
แหล่งที่มาของแคลเซียมบำรุงกระดูกจากธรรมชาติ
แคลเซียมสามารถพบได้ในหลายแหล่งอาหาร โดยทั่วไปแล้ว นมและผลิตภัณฑ์จากนมเช่น โยเกิร์ต และชีส ถือเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีที่สุด นอกจากนี้ ผักใบเขียวเช่น คะน้า และบร็อคโคลี่ รวมถึงปลาที่กินได้พร้อมกระดูก เช่น ปลาซาร์ดีน ก็เป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีเช่นกัน
ปริมาณแคลเซียมบำรุงกระดูกที่แนะนำ
ปริมาณแคลเซียมที่แนะนำในแต่ละวันขึ้นอยู่กับอายุ และเพศ โดยทั่วไป ผู้ใหญ่ต้องการแคลเซียมประมาณ 1,000 – 1,200 มิลลิกรัม/วัน ผู้สูงอายุอาจต้องการแคลเซียมมากขึ้นเพื่อช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
ผลข้างเคียงของแคลเซียมบำรุงกระดูกหากทานมากเกิน
- ไตตกค้าง (Hypercalcemia) – การมีระดับแคลเซียมในเลือดสูงเกินไปสามารถนำไปสู่ภาวะไตตกค้าง ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ความรู้สึกเหนื่อยล้า ปัญหาทางเดินอาหาร (อาเจียน คลื่นไส้ ท้องผูก) การเกิดปัญหาที่ไต และการเกิดนิ่วในไต
- ปัญหาทางเดินอาหาร – การรับประทานแคลเซียมเสริมในปริมาณมากอาจนำไปสู่ปัญหาทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก อาการแน่นท้อง และท้องเฟ้อ
- ผลกระทบต่อการดูดซึมของแร่ธาตุอื่นๆ – แคลเซียมในปริมาณสูงอาจแข่งขันกับแร่ธาตุอื่นๆ เช่น เหล็ก และสังกะสี ในการดูดซึมซึ่งอาจทำให้เกิดการขาดแร่ธาตุเหล่านี้
- เพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ – การรับประทานแคลเซียมเสริมในปริมาณมากอาจเพิ่มความเสี่ยงของภาวะหัวใจบางอย่าง เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีปริมาณวิตามินดีที่สูงเกินไป
- อาการปวดกระดูก – แคลเซียมในปริมาณมากอาจนำไปสู่ความผิดปกติของกระดูก เช่น การเจ็บปวดหรืออ่อนแอของกระดูก
- ปัญหาทางจิตใจ – ภาวะไตตกค้างสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต เช่น การเปลี่ยนแปลงอารมณ์ ความสับสน หรือการมีอาการซึมเศร้า
ข้อสรุป
แคลเซียมบำรุงกระดูกนั้นมีข้อดีมากมาย แต่หากทานในปริมาณที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้การตระหนักถึงผลข้างเคียงเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถใช้แคลเซียมได้อย่างปลอดภัย และเกิดผลดีมากกว่าผลเสีย